นายเจมส์ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แม็คกรุ๊ป [MC] เปิดเผยว่า แนวโน้มผลดำเนินงานงวดไตรมาส สุดท้ายของปีบัญชี 2568 (เม.ย – มิ.ย 2568) ยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจาก 3 ไตรมาสแรกของปี 2568 และ มั่นใจว่าผลดำเนินงานปีบัญชี 2568 จะเป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทที่วางไว้ ถึงแม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะโตชะลอตัวจากผลกระทบการขึ้นภาษีของทรัมป์ รวมถึงบริษัทมีแผนตั้งรับไว้แล้ว เช่น การจัดแคมเปญลดกลางปีที่เตรียมตัวเลือกสินค้าที่หลากหลายให้กับลูกค้า รวมถึงการเน้นเพิ่มกลุ่มลูกค้าผู้หญิงด้วยสินค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการโปรโมทสินค้าผ่านทางแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่หลากหลายเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากที่สุด เพื่อช่วยสนับสนุนผลดำเนินงานในงวดสุดท้ายของปี
ทั้งนี้งวด 9 เดือนแรกของปี แม็คกรุ๊ป มีกำไรสุทธิ 626 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49 ล้านบาทหรือ 8.5% เมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 577 ล้านบาท มีอัตรากำไรสุทธิ 19% เพิ่มขึ้นเทียบงวดเดียวกันปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 17.9%
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นยังทรงตัวระดับสูงที่ 64.3% ซึ่งอัตรากำไรที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาจากยอดขายของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นโดยงวด 9 เดือนนี้บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้า 3,245ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67 ล้านบาทหรือ 2.10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 3,178 ล้านบาท
โดยเฉพาะการเติบโตของยอดขายที่ผ่านช่องทางออนไลน์ขยายตัวดีมาก ในงวดไตรมาส 3/68 บริษัทมีรายได้จากช่องทางร้านค้าออนไลน์(E-Commerce) เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด หนุนให้สัดส่วนรายได้จาก E-Commerceขึ้นไปแตะที่ 18 % จาก 9% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน หรือมีรายได้จากการขาย 194 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 104 ล้านบาทหรือ 114.6% จาก 90 ล้านบาทเมื่องวดปีก่อน ส่วนงวด 9 เดือนมีรายได้ 531 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 66.3% หรือ 212 ล้านบาท จาก 319 ล้านบาท
นายเจมส์ริชาร์ด กล่าวว่า “แม็คกรุ๊ป” มีความแข็งแกร่ง ทั้งในแง่ของแบรนด์ที่อยู่มาอย่างยั่งยืน 50 ปี มีสินค้าที่มีความหลากหลาย เข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่มทุกสไตล์ และถ้าหากดูในพอร์ตสินค้าของแม็คกรุ๊ป ณ สิ้นไตรมาส 3 ที่ผ่านมาจะเห็นว่าสินค้าที่ไม่ใช่ยีนส์ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 49% จาก 45% ส่วนสินค้าประเภทหมวก รองเท้า ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 17% จาก 13% ขณะที่ ยีนส์ ลดสัดส่วนลงเหลือ 35% จาก 42% เทียบงวดกันกันของปีก่อน ซึ่งพอร์ตสินค้าลักษณะนี้จะสนับสนุนในเรื่องของการขาย และเป็นที่น่าสนใจมากหากดูฐานลูกค้าสมาชิกที่มีกว่า 1.5 ล้านคนและกว่า 50%เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง
ขณะที่ในส่วนของตัวเลขทางการเงินนั้น แม็คกรุ๊ป มีความแข็งแกร่งมาตลอดและเป็นบริษัทที่มีกำไรต่อเนื่องนับจากเข้าตลาดหลักทรัพย์มา 12 ปี ปันผลต่อเนื่องทุกๆปีและปีล่าสุดปันผล 100% ของกำไรสุทธิ หรือนักลงทุนที่ลงทุนหุ้น MC จะได้รับอัตราผลตอบแทนเงินปันผลเกือบ10% และยังเป็นบริษัทที่ Cash Rich โดยงวดล่าสุด มีเงินสด และรายการเทียบเท่าเงินสดและเงินลงทุนชั่วคราวรวม 1,733 ล้านบาท และสำคัญเป็นบริษัทที่ Zero Debt หรือไม่มีหนี้กับสถาบันการเงินเลยซึ่งปัจจัยบวกที่แข็งแกร่งเหล่านี้จะทำให้ MC เติบโตได้อย่างต่อเนื่องในปีถัดๆไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 มิ.ย. 68)
Tags: MC, หุ้นไทย, เจมส์ริชาร์ด อมตวิวัฒน์, แม็คกรุ๊ป