“สุริยะ” สั่งลุยโปรเจ็กต์ใหญ่ เร่งเบิกจ่ายงบตามเป้า ชงครม.พรุ่งนี้ขยายวงเงินสายสีแดง-เปิดคาร์โก้สุวรรณภูมิ

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามผลการดำเนินงานโครงการสำคัญ ตามนโยบาย ครั้งที่ 2/2568 ว่า ได้ติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2568 ในส่วนงบรายจ่ายลงทุนจำนวน 212,213.68 ล้านบาท ผลการเบิกจ่ายด้านการลงทุน ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2568 อยู่ที่ 93,000.54 ล้านบาท หรือ 43.82% ซึ่งยังล่าช้ากว่าแผนประมาณ 8.96%

สำหรับการลงนามในสัญญารายการผูกพันใหม่ 326 รายการ วงเงิน 24,184.65 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม2568 ลงนามในสัญญาแล้ว 86 สัญญา วงเงิน 1,311.37 ล้านบาท โดยภายหลังการปรับแผนในเดือนมิถุนายน 2568 จะลงนามในสัญญาได้ 79.45% และจะลงนามได้ 100% ภายในเดือนสิงหาคม 2568

ส่วนภาพรวมการเบิกจ่ายเงินกันเหลื่อมปี 2567 ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2568 วงเงิน 47,373.50 ล้านบาท ขณะนี้กระทรวงคมนาคมเบิกจ่ายสะสมรวม 40,593.25 ล้านบาท หรือ 85.69%

“การเบิกจ่ายตอนนี้อาจจะดูตัวเลขล่าช้ากว่าแผน เนื่องจากงานสัญญาปีเดียวระยะสั้น ซึ่งมีจำนวนมากได้ประมูลแล้วผูกพันแล้ว แต่ผู้รับเหมาส่วนใหญ่จะดำเนินการไปก่อนและรอเบิกจ่ายเงินงวดเดียว ดังนั้นยอดเบิกจ่ายเงินจึงยังไม่แสดงออกมา รวมกับงานสัญญาผูกพันใหม่ ที่ประมูลเสร็จแล้วรอกระบวนการอนุมัติและลงนามสัญญาจะเกิดการเบิกจ่ายงวดแรก 15% ซึ่งจะเริ่มในช่วงมิ.ย.เป็นต้นไป ทั้งนี้มั่นใจว่ากระทรวงคมนาคมจะเบิกจ่ายงบประมาณสำหรับการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานได้ 100% ภายในสิ้นปีงบประมาณ 30 ก.ย. 2568 สูงกว่าเป้าหมายรัฐบาลตั้งไว้ที่ 80% เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งได้กำชับทุกหน่วยงานให้ดำเนินการทุกโครงการอย่างเคร่งครัด และต้องมีความโปร่งใสทุกกระบวนการ”

ชงครม.พรุ่งนี้ขยายวงเงินสายสีแดง-เปิดคาร์โก้รายที่ 2 สุวรรณภูมิ

นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมมีโครงการที่อยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณา ในวันที่ 10 มิ.ย. 68 จำนวน 2 โครงการได้แก่

1.การขยายกรอบวงเงินรถไฟสายสีแดง ประกอบด้วย สัญญาที่ 1 (งานโยธา สำหรับสถานีกลางบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง) ตามคำสั่งศาลปกครอง ค่างานเพิ่มเติม (VO) และสัญญาที่ 2 และ 3 ที่เป็นค่างานที่เพิ่ม รวมประมาณ 8,700 ล้านบาท ทำให้กรอบวงเงินโครงการรวมเพิ่มจาก 96,868 ล้านบาท เป็น 104,445 ล้านบาท

2. โครงการให้บริการคลังสินค้า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของผู้ประกอบการรายที่ 2 ของบมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) โดยเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนโครงการในรูปแบบ PPP Net Cost มูลค่าของโครงการรวม 15,253 ล้านบาท

โครงการที่เสนอไปรอบรรจุวาระแล้ว ได้แก่

1. โครงการทางพิเศษจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงกะทู้ – ป่าตอง

2.โครงการเช่ารถโดยสารประจำทางปรับอากาศ EV การขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีและขออนุมัติรวมโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงตลิ่งชัน – ศาลายา และสถานีเพิ่มเติม 3 สถานี (สถานีสะพานพระราม 6 สถานีบางกรวย – กฟผ. และสถานีบ้านฉิมพลี) และโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน – ศิริราช เข้าด้วยกัน เพื่อดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นสัญญาเดียว

3.ขออนุมัติจัดหารถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า (บทต.) โดยกำหนดให้นำชิ้นส่วนภายในประเทศและต่างประเทศมาประกอบภายในประเทศ 946 คัน

โครงการที่อยู่ระหว่างสอบถามความเห็นหน่วยงาน ได้แก่
  • โครงการทางพิเศษสายฉลองรัช – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันออก
  • โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ช่วงบางบัวทอง – บางปะอิน (M9)
  • โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 จำนวน 6 เส้นทาง
  • ขอความเห็นชอบโครงการจัดหารถดีเซลรางปรับอากาศใหม่ สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ 184 คัน พร้อมอะไหล่
  • ขอความเห็นชอบให้ดำเนินการโครงการจัดหารถโดยสารทดแทนรถด่วนพิเศษและรถด่วน 182 คัน พร้อมอะไหล่ และ
  • ขอความเห็นชอบให้ดำเนินโครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้า พร้อมอะไหล่ ขนาดน้ำหนักกดเพลา 20 ตันต่อเพลา จำนวน 113 คัน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 มิ.ย. 68)

Tags: , , , , ,