BMW ยังคงเป้าเดิมปี 68 แต่เตือนภาษีสหรัฐฯ จ่อส่งผลกระทบ Q2

บีเอ็มดับเบิลยู (BMW) ค่ายรถหรูจากเยอรมนี ได้ยืนยันมุมมองทางธุรกิจสำหรับปี 2568 ตามเดิม และคาดว่าภาษีนำเข้ารถยนต์บางส่วนของสหรัฐฯ จะเริ่มลดลงตั้งแต่เดือนก.ค. อย่างไรก็ตาม BMW ก็ได้เตือนว่ามาตรการทางภาษีเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจ “อย่างเห็นได้ชัด” ในช่วงไตรมาสที่ 2/2568

วอลเตอร์ เมอร์เทิล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ BMW กล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างการประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/68 ว่า “สถานการณ์ความไม่แน่นอนทั้งทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจมหภาคตอนนี้อยู่ในระดับที่เราไม่ค่อยได้เจอมาก่อน” และเสริมว่าทางบริษัทกำลัง “จับตามองอย่างใกล้ชิด” ถึงผลกระทบที่จะมีต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค

ค่ายรถยนต์คู่แข่งส่วนใหญ่ของ BMW ไม่ว่าจะเป็นเมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz), ฟอร์ด (Ford) หรือสเตลแลนทิส (Stellantis) ต่างก็พากันถอนการคาดการณ์สำหรับปี 2568 ไปแล้ว โดยให้เหตุผลว่าเป็นการยากที่จะประเมินทิศทางได้อย่างแม่นยำ เมื่อพิจารณาถึงผลกระทบวงกว้างจากมาตรการภาษีนำเข้าในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ใหญ่อันดับ 2 ของโลก

แต่ BMW ยืนยันว่าเป้าหมายปี 2568 ที่เคยประกาศไว้เมื่อเดือนมี.ค. ซึ่งได้รวมผลกระทบจากภาษีศุลกากรทั้งหมดที่มีการประกาศออกมาจนถึงตอนนั้นแล้ว ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดย BMW คาดการณ์ว่า กำไรก่อนหักภาษีจะอยู่ในระดับเดียวกับปี 2567 และอัตรากำไรจากการดำเนินงานในกลุ่มธุรกิจยานยนต์จะอยู่ที่ 5-7%

BMW กล่าวว่า แม้จะประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากภาษีในปีนี้ได้เพียงคร่าว ๆ โดยอ้างอิงจากสมมติฐานบางประการ แต่ก็คาดว่า “การปรับขึ้นภาษีบางส่วนน่าจะเป็นเพียงชั่วคราว และจะเริ่มมีการปรับลดลงตั้งแต่เดือนก.ค. 2568”

หุ้น BMW มีทิศทางปรับตัวสูงขึ้น 2% ในการเปิดตลาด ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) ของกลุ่มธุรกิจยานยนต์ในไตรมาส 1/68 ที่ออกมาดีเกินคาด อยู่ที่ 2.02 พันล้านยูโร (2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.85 พันล้านยูโร

ด้วยยอดสั่งซื้อที่แข็งแกร่งและการควบคุมต้นทุนอย่างมีวินัย ส่งผลให้อัตรากำไรจากการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจนี้ในไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 6.9% แม้จะลดลงจาก 8.8% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ก็ยังดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 6.3%

ถึงกระนั้น BMW ก็ยังคงตั้งข้อสังเกตว่า ผลการดำเนินงานจริงอาจเปลี่ยนแปลงได้ หากมีการปรับขึ้นภาษีหรือภาษียังคงมีผลบังคับใช้นานกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนหรือวัตถุดิบบางอย่างได้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 พ.ค. 68)

Tags: ,