CPAXT-CPALL ดิ่ง โบรกนอกมองเชิงลบ-กังวล Happitat ขาดทุน-ยอดขายชะลอ-Valuation แพง

CPAXT ปิดร่วง 9.50% ลดลง 2.10 บาท มาที่ 20.00 บาท ต่ำสุดในรอบเกือบ 13 ปี มูลค่าการซื้อขาย 1,074.93 ล้านบาท เมื่อเวลา 16.58 น. จากราคาเปิด 21.90 น. ราคาสูงสุด 22.10 บาท และราคาต่ำสุด 19.90 บาท

ส่วน CPALL ลดลง 4.43% มาปิดที่ 48.50 บาท หรือลดลง 2.25 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขายหนาแน่นกว่า 2,616.76 ล้านบาท

แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ ระบุว่า โบรกเกอร์ต่างชาติมองว่าหุ้น บมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า [CPAXT] เผชิญกับหลายปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นและความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนในโครงการ The Happitat มิกซ์ยูสขนาดใหญ่ มูลค่ากว่า 8 พันล้านบาท สร้างความกังวลจากการแบกภาระดอกเบี้ยจ่ายราว 300 ล้านบาท/ปี หากโครงการไม่เป็นไปตามแผน และอาจทำให้ต้องรับรู้ผลขาดทุนเข้ามา ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการปรับประมาณการกำไรในอนาคตลง

ด้านผลการดำเนินงานไตรมาส 1/68 แม้ว่าจะรายงานกำไรเพิ่มขึ้น 6.52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่กำไรลดลง 33.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และยอดขายสาขาเดิมของ CPAXT ตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค. จนถึงปัจจุบันยังคงใกล้เคียงกับเดือนเม.ย. ส่วนยอดขาย B2B ทรงตัว โดยยอดขายจาก Food Service และ MAKRO ในต่างประเทศช่วยชดเชยการชะลอตัวยอดขายจากร้านค้า format ใหญ่ ขณะที่ยอดขายของ Lotus’s ทรงตัว โดยคาดว่าธุรกิจ Lotus’s ในมาเลเซียยังเติบโต YoY และช่วยชดเชยยอดขายที่ลดลงในไทย

โดยมองว่าราคาหุ้น CPAXT แพงเกิมูลค่าพื้นฐาน แนะนำ “หลีกเ

CPAXT ปิดร่วง 9.50% ลดลง 2.10 บาท มาที่ 20.00 บาท ต่ำสุดในรอบเกือบ 13 ปี มูลค่าการซื้อขาย 1,074.93 ล้านบาท เมื่อเวลา 16.58 น. จากราคาเปิด 21.90 น. ราคาสูงสุด 22.10 บาท และราคาต่ำสุด 19.90 บาท

ส่วน CPALL ลดลง 4.43% มาปิดที่ 48.50 บาท หรือลดลง 2.25 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขายหนาแน่นกว่า 2,616.76 ล้านบาท

แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ ระบุว่า โบรกเกอร์ต่างชาติมองว่าหุ้น บมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า [CPAXT] เผชิญกับหลายปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นและความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนในโครงการ The Happitat มิกซ์ยูสขนาดใหญ่ มูลค่ากว่า 8 พันล้านบาท สร้างความกังวลจากการแบกภาระดอกเบี้ยจ่ายราว 300 ล้านบาท/ปี หากโครงการไม่เป็นไปตามแผน และอาจทำให้ต้องรับรู้ผลขาดทุนเข้ามา ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการปรับประมาณการกำไรในอนาคตลง

ด้านผลการดำเนินงานไตรมาส 1/68 แม้ว่าจะรายงานกำไรเพิ่มขึ้น 6.52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่กำไรลดลง 33.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และยอดขายสาขาเดิมของ CPAXT ตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค. จนถึงปัจจุบันยังคงใกล้เคียงกับเดือนเม.ย. ส่วนยอดขาย B2B ทรงตัว โดยยอดขายจาก Food Service และ MAKRO ในต่างประเทศช่วยชดเชยการชะลอตัวยอดขายจากร้านค้า format ใหญ่ ขณะที่ยอดขายของ Lotus’s ทรงตัว โดยคาดว่าธุรกิจ Lotus’s ในมาเลเซียยังเติบโต YoY และช่วยชดเชยยอดขายที่ลดลงในไทย

โดยมองว่าราคาหุ้น CPAXT แพงเกินมูลค่าพื้นฐาน แนะนำ “หลีกเลี่ยง”

ลี่ยง”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 พ.ค. 68)

Tags: , , ,