บมจ.ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ [III] เตรียมจัดตั้งบริษัทย่อย ใหม่ คือ บริษัท แพคตร้า อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด (Pactra-Thailand) ด้วยทุนจดทะเบียน 7 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 700,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับ Pactra International Co., Ltd. (Korea) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการบริการด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจร และความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ประกอบกิจการสัญชาติเกาหลีต่างๆอีกด้วย โดย III จะถือหุ้น 55% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ด้วยเงินลงทุนจำนวน 3.85 ล้านบาท
นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร III กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/68 คาดว่าจะเติบโตได้ดีทั้งจากสัญญาณการฟื้นตัวของการขนส่งทางอากาศตั้งแต่กลางเดือน มี.ค.68 และจากปัจจัยเชิงบวกหลังจากที่สหรัฐเลื่อนเก็บภาษีนำเข้าจากประเทศต่างๆ รวมถึงไทย ช่วยสนับสนุนความต้องการขนส่งสินค้า ส่งผลดีทั้งกับบริษัทและบริษัทที่เข้าลงทุน ได้แก่ บมจ.เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล [ANI] และ บริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด (บพท.) หรือ AOTGA
อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นอัตราภาษีของสหรัฐฯส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทไม่มาก เนื่องจากโดยปกติมีสัดส่วนการขนส่งสินค้าจากไทยไปสหรัฐต่ำกว่า 10% ของปริมาณขนส่งสินค้ารวมของบริษัท และบริษัทยังเตรียมรับมือโดยได้ปรับกลยุทธ์ขยายโอกาสทางธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศไปยังเส้นทางใหม่ๆ โดยใช้ประเทศไทยเป็น Transit Hub เน้นการขนส่งสินค้าในภูมิภาคไปยังประเทศปลายทาง เช่น รัสเซีย และตะวันออกกลาง
นอกจากนี้ ได้รุกขยายศักยภาพของธุรกิจตามแผน Synergy 360 องศา ทั้งระหว่างบริษัทในเครือและร่วมกับพันธมิตรที่มีศักยภาพเพื่อพัฒนาบริการ อาทิ การผนึกกำลังระหว่างบริษัทฯ และ บมจ.เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ [SJWD] ที่เริ่มเห็นชัดเจนจากความร่วมมือด้านธุรกิจคลังสินค้าทั่วไป การพัฒนาด้าน IT และยังมีแผนความร่วมมือขยายคลังสินค้าเคมีภัณฑ์ในพื้นที่ EEC รวมทั้งการที่บริษัทมีแผนร่วมทำการตลาดให้กับบริษัท เทเลพอร์ต (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศของสายการบิน Air Asia ตลอดจนการได้รับประโยชน์จาก Air Asia X ที่ย้ายฐานการบินจากสนามบินสุวรรณภูมิมาที่สนามบินดอนเมือง จะส่งผลให้รายได้ธุรกิจคลังสินค้าภายในสนามบินเติบโตขึ้น
ที่สำคัญ ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้สร้างความหลากหลายของการให้บริการ โดยเฉพาะในด้านการขนส่งทางอากาศที่ทริพเพิลไอถือเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการชั้นนำ ซึ่งได้พัฒนาการให้บริการอย่างครบวงจร ทั้งการเปิดให้บริการคลังสินค้ารองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (Multimodal Warehouse) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี รวมถึงการผสานความร่วมมือกับ AOTGA เมื่อปลายปี 2567 ให้บริการ Airport Truck Link หรือบริการรถบรรทุกเชื่อม 3 สนามบินหลักของไทย ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้จากในทุกกระบวนการของการขนส่ง ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้เต็มปีในปีนี้
ในส่วนบริษัทที่เข้าลงทุน อย่าง AOTGA ผ่านบริษัท เอสเอแอล กรุ๊ป (ไทยแลนด์) หรือ SAL คาดว่าจะยื่นประมูลงานผู้ให้บริการภาคพื้นดินของสนามบินสุวรรณภูมิรายที่ 3 ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม และน่าจะทราบผลการประมูลไม่เกินไตรมาส 3/68 รวมถึง ANI ได้รับสัญญาตัวแทนขายระวางสินค้าเพิ่มเติมจากสายการบินอีก 2 สัญญา จะเป็นปัจจัยบวกหนุนให้บริษัทฯ เติบโตอย่างต่อเนื่อง
สำหรับไตรมาส 1/68 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการรวม 531.3 ล้านบาท เติบโต 6.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) จากการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของกลุ่มธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ (Logistics Management) ส่วนกำไรสุทธิหลังหักรายการพิเศษทำได้ 108.6 ล้านบาท เติบโต 5.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 พ.ค. 68)
Tags: III, ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์, ทิพย์ ดาลาล, โลจิสติกส์