ITEL ผนึก สทป.ผุด”เนชันแนล ดีเฟนส์”เสริมแกร่งเทคฯป้องกันประเทศวางเป้ารายได้แตะ 200 ลบ.ใน 2-3 ปี

นายณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม [ITEL] กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมทุนกับสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) จัดตั้งบริษัท เนชันแนล ดีเฟนส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (NATIONAL DEFENSE CORPORATION LTD.) หรือ NDC ยกระดับบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับงานด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศ โดย ITEL ถือหุ้นในสัดส่วน 60% และสทป. 40% ซึ่งนำเสนอคณะกรรมการบริษัทพิจารณาในวันที 16 พ.ค. นี้

ปัจจุบัน กลุ่มร่วมทุนอยู่ระหว่างการเจรจาขายงานกับลูกค้า 2 โครงการ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงปลายไตรมาส 2-ต้นไตรมาส 3/68 หลังจากนี้จะมีการเข้าไปขายงานให้กับเอกชนในพื้นที่การจัดงานแสดงขนาดใหญ่และต้องการความปลอดภัย โดยวางเป้าหมาย NDC จะสร้างรายได้แตะ 200 ล้านบาทภายใน 2-3 ปี

จุดมุ่งหมายสำคัญของการร่วมทุน เพื่อดำเนินธุรกิจบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อความมั่นคง และสนับสนุนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทย โดยบริษัทจะให้บริการเกี่ยวกับระบบความปลอดภัยสาธารณะ (Public Safety) โซลูชั่นดิจิทัล (Digital Solutions) เทคโนโลนีสารสนเทศและการสื่อสารที่ทันสมัย เช่น IoT, AI , Cloud Computing, Big Data Analytics เป็นต้น นอกจากนี้ทางสทป. ยังมีเป้าหมายการจัดตั้ง NDC เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและขายไปยังต่างประเทศในอนาคต

“เรามองว่าเราไม่ได้ทำแค่ในประเทศ เราจะขยายต่อไป แต่จุดเริ่มต้นใน 2 ปี จะโฟกัสในประเทศก่อน และลูกค้าเราจะเป็นหน่วยงานความมั่นคงเป็นหลัก จะเห็นว่าในหน่วยงานมีกล้องอยู่มาก ความร่วมมือนี้เราจะเอา AI เจ้าไปจับช่วยทำให้กล้องต่าง ๆ ที่ศักยภาพดีไม่พอให้ดียิ่งขึ้น”

ITEL มองว่าบริษัทมีความพร้อมทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม การบริการโครงข่ายไฟเบอร์ออพติกที่มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพสูงสุดครอบคลุมทั่วประเทศ และประสบการณ์อันยาวนานในการให้บริการวงจรสื่อสารความเร็วสูงแก่ทั้งภาครัฐและเอกชน ความร่วมมือครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้ ITEL สามารถต่อยอดเทคโนโลยีเหล่านี้ไปสู่ระบบสื่อสารเพื่อความปลอดภัยสาธารณะ การบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ รวมถึงสามารถพัฒนาแพลตฟอร์มเมืองอัจฉริยะที่มีความปลอดภัยในระดับสูง และรองรับภารกิจด้านความมั่นคงในระดับชาติได้อย่างยั่งยืน

นอกจากนี้เป้าหมายหลักของ NDC คือการรวมกล้องวงจรปิดทั้งประเทศเข้าด้วยกันผ่านศูนย์กลางหนึ่งเดียว ซึ่งปัจจุบันกล้องแต่ละหน่วยงานมีหลากหลายยี่ห้อและมีการจัดซื้อที่หลากหลาย จึงจำเป็นต้องมีการรวมศูนย์กลาง ซึ่งการจะทำให้ได้ตามเป้าหมายต้องทยอยปิดงานของแต่ละหน่วยงานก่อน โดยไม่ปิดกั้นทุกยี่ห้อสามารถเชื่อมต่อศูนย์กลางของ NDC ได้ โดยมีความตั้งใจหลักคือทำให้หน่วยงานมีพัฒนาการด้านความมั่นคงที่ดีขึ้น

“เราเชื่อมั่นว่า NDC จะไม่เพียงแต่เป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งของภาครัฐ แต่ยังเป็นฟันเฟืองสำคัญในการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการสื่อสารเพื่อความมั่นคงในภูมิภาค เราพร้อมให้การสนับสนุนทั้ง ด้านการบริหารจัดการบุคลากร และเทคโนโลยี เพื่อให้ NDC ดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความยั่งยืนในระยะยาว” นายณัฐนัย กล่าวเสริม

ความร่วมมือในการจัดตั้ง NDC ยังสะท้อนถึงวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ของ ITEL ในการขยายธุรกิจสู่ตลาดความมั่นคงที่มีศักยภาพสูง ต่อยอดจากความเชี่ยวชาญด้านโครงข่ายโทรคมนาคมที่บริษัทฯ มีอยู่แล้ว ที่สำคัญการร่วมทุน ดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความหลากหลายของพอร์ตโฟลิโอทางธุรกิจ และเปิดโอกาสการเติบโตใหม่ ๆ พร้อมกับเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่จะเสริมความมั่นคงปลอดภัยให้กับประเทศไทย

นอกจากนี้ นายณัฐนัย ได้ย้ำเป้าหมายรายได้ปี 68 ของ ITEL จะทำได้มากกว่า 3,500 ล้านบาท โดยมาจากธุรกิจ Data Service ราว 2,800 ล้านบาท และจากบริษัทย่อย 700 ล้านบาท ขณะที่ NDC ในช่วงปีแรกยังเป็นการจัดตั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ ITEL มีการให้บริการ Solution ที่เกี่ยวกับกล้องในกับหน่วยงานความมั่นคงอยู่แล้ว การจัดตั้ง NDC เป็นการขยายต่อยอดทำให้สามารถเข้าไปเสนอบริการให้กับหน่วยงานภาครัฐได้ดียิ่งขึ้น

ขณะที่แผนการนำบริษัทลูก หรือ บมจ.บลู โซลูชั่น เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) นั้น ด้วยสภาวะตลาดปัจจุบันที่มีความผันผวน บริษัทจึงชะลอการนำเข้าจดทะเบียน ซึ่งคาดว่าในเดือนส.ค. หลังสถานการณ์ต่าง ๆ คลี่คลายมีความชัดเจน ตลาดกลับมาอยู่ในภาวะปกติ จะพิจารณาไทม์ไลน์การระดมทุนอีกครั้ง โดยคาดว่าน่าจะเข้าเทรดภายในปีนี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ค. 68)

Tags: , , ,