Novo Nordisk หั่นเป้ายอดขาย แต่หุ้นพุ่ง ขานรับอย.สหรัฐฯ จ่อแบนยาเลียนแบบ Wegovy

โนโว นอร์ดิสค์ (Novo Nordisk) ได้ประกาศปรับลดคาดการณ์ยอดขายของบริษัทในวันนี้ (7 พ.ค.) อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นกลับปรับตัวสูงขึ้น หลังนักลงทุนต่างขานรับข่าวที่องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) เตรียมสั่งห้ามจำหน่ายยาลอกเลียนแบบ Wegovy (ยาลดน้ำหนักของโนโว นอร์ดิสค์) โดยคาดว่าคำสั่งห้ามนี้จะมีผลบังคับใช้ภายในเดือนพ.ค.นี้

ครั้งนี้ถือเป็นการปรับลดคาดการณ์ครั้งแรกของโนโวนับตั้งแต่เปิดตัว Wegovy เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ซึ่งความสำเร็จของ Wegovy นี้เองที่เคยผลักดันให้โนโวกลายเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าสูงที่สุดในยุโรป โดยเคยมีมูลค่าสูงสุดถึง 6.15 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ยอดสั่งจ่ายยา Wegovy ในสหรัฐฯ ไม่ได้เพิ่มขึ้นเลยตั้งแต่เดือนก.พ. แม้ว่าโนโวจะได้เพิ่มกำลังการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของตนแล้วก็ตาม ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบริษัทลดลงกว่าครึ่งหนึ่ง เหลือประมาณ 3.1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

หุ้นของบริษัทดีดตัวขึ้น 6.65% หลังจากผู้บริหารคาดการณ์ว่ายอดขาย Wegovy จะฟื้นตัวได้ ปัจจัยหนุนสำคัญมาจากคำสั่งห้ามจำหน่ายยาเลียนแบบที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดไปอย่างมาก

ปัจจุบัน โนโวคาดการณ์ว่ายอดขายในปี 2568 จะเติบโตระหว่าง 13%-21% ซึ่งลดลงจากกรอบคาดการณ์เดิมที่ 16%-24% ขณะเดียวกัน ตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 16%-24% ลดลงจากเดิมที่ 19%-27%

สำหรับยอดขาย Wegovy ในไตรมาส 1/2568 อยู่ที่ 1.736 หมื่นล้านโครนเดนมาร์ก ลดลง 13% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.87 หมื่นล้านโครน

ขณะเดียวกัน ความกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันจากอีไล ลิลลี่ (Eli Lilly) ก็มีเพิ่มมากขึ้น โดยยา Zepbound ซึ่งเป็นยารักษาโรคอ้วนของอีไล ลิลลี่ มียอดสั่งจ่ายในสหรัฐฯ แซงหน้า Wegovy ไปแล้วตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา นับเป็นความท้าทายต่อความเป็นผู้นำของโนโวในตลาดที่ทำกำไรมหาศาลนี้

ยาสูตรเลียนแบบที่ผลิตโดยร้านขายยาสามารถชิงส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ ไปได้ราวหนึ่งในสาม โดยลาส ฟรูเออกอร์ เยอร์เกนเซน ซีอีโอของโนโวกล่าวว่า ปัจจัยนี้ “ส่งผลกระทบ” ต่อการเติบโตของบริษัท เขายังระบุด้วยว่า ปริมาณผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับการอนุมัติเหล่านี้มีจำนวน “มากเป็นประวัติการณ์” และน่าประหลาดใจ

FDA จะเริ่มบังคับใช้คำสั่งห้ามดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.นี้ การตัดสินใจนี้สืบเนื่องมาจากการประเมินของ FDA ที่ว่า ยา Wegovy และ Ozempic ไม่ได้อยู่ในภาวะขาดแคลนอีกต่อไป ทำให้เหตุผลในการอนุญาตให้มีจำหน่ายยาเลียนแบบเหล่านี้หมดไป

โนโวคาดว่ายอดสั่งจ่ายยา Wegovy จะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหลังมีคำสั่งห้าม นอกจากนี้ บริษัทยังต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ โดยบริษัทได้เน้นย้ำถึงการลงทุนจำนวนมากในสหรัฐฯ รวมถึงการส่งออกสินค้าจากสหรัฐฯ เช่นกัน

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/68 กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) อยู่ที่ 3.879 หมื่นล้านโครนเดนมาร์ก สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา โนโวได้ลงทุนในสหรัฐฯ ไปแล้วกว่า 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจในตลาดสำคัญแห่งนี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 พ.ค. 68)

Tags: , , , ,