องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) คาดการณ์ในวันอังคาร (3 มิ.ย.) ว่า เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรจะชะลอตัวลง โดยให้เหตุผลว่าเกิดจากความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้น สภาวะการเงินที่ตึงตัวขึ้น และความไม่แน่นอนที่เพิ่มมากขึ้น
OECD ระบุในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจฉบับล่าสุดคาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษจะขยายตัวขึ้น 1.3% ในปี 2568 ก่อนชะลอตัวลงสู่ระดับ 1% ในปี 2569
รายงานระบุว่า แรงกดดันจากเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ เนื่องจากราคาสินค้านำเข้าพุ่งสูงขึ้นและการเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของค่าจ้างในปี 2568 อย่างไรก็ตาม แรงกดดันต่าง ๆ เหล่านี้อาจผ่อนคลายลงในปี 2569 เนื่องจากกำลังการผลิตส่วนเกินเพิ่มขึ้นและตลาดแรงงานอ่อนแอลง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า OECD ยังเตือนด้วยว่า การจ่ายดอกเบี้ยที่สูงของหนี้สาธารณะจะยังคงฉุดรั้งดุลการคลังของอังกฤษ และส่งผลให้ภาระหนี้เพิ่มขึ้น
OECD ระบุว่า การคลังของรัฐบาลเป็นความเสี่ยงสำคัญที่อาจฉุดรั้งแนวโน้มเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะหากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหม่ ขณะที่ขีดความสามารถในการใช้มาตรการการคลังมีจำกัด และรัฐบาลยังคงต้องรักษาวินัยการคลังตามกฎที่มีอยู่
นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อจากราคาบริการที่เพิ่มสูงขึ้นยังถูกมองว่าเป็นความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นอีกด้วย
ขณะเดียวกัน OECD คาดการณ์ว่า การเติบโตของ GDP ทั่วโลกจะชะลอตัวลงจาก 3.3% ในปี 2567 สู่ระดับ 2.9% ทั้งในปี 2568 และ 2569 โดยการคาดการณ์นี้ตั้งอยู่บนสมมุติฐานว่า อัตราภาษีศุลกากร ณ กลางเดือนพ.ค. จะยังคงมีผลบังคับใช้ แม้ว่าข้อพิพาทด้านกฎหมายเกี่ยวกับภาษีดังกล่าวกำลังดำเนินอยู่ก็ตาม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 มิ.ย. 68)
Tags: อังกฤษ, เศรษฐกิจอังกฤษ