นายธันยา หวังธำรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ผลธัญญะ [PHOL] เปิดเผยถึงกลยุทธ์การเติบโตในปี 2568 นี้ เร่งการขยายตัวต่อยอดจากธุรกิจเดิมเป็นหลัก หรือ RAPID ORGANIC GROWTH โดยชูกลยุทธ์ 3M ได้แก่ More Penetrate เพิ่มการเข้าถึงลูกค้า ด้วยระบบ CRM, ทีมขายและ Tele Sale, ระบบติดตามการขาย และ Omni-Channel เพื่อกระจายสินค้าได้ครอบคลุมในหลายๆกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น More Products ขยายไลน์สินค้าทั้งในกลุ่มเทรนด์สุขภาพ ผู้สูงอายุ สินค้าเพื่อสิ่งแวดล้อม และสินค้าคาร์บอนต่ำ และ More Efficiency ยกระดับการทำงานด้วยเทคโนโลยีเชื่อมโยงข้อมูลการขาย สต๊อก และบริการหลังการขาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ วางเป้าหมายการเติบโตทั้งจากลูกค้าภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐ และตลาดคอนซูเมอร์
“ประเมินภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 ยังมีแนวโน้มที่ดี ซึ่งภาพรวมภาคการผลิตของลูกค้าอุตสาหกรรมคาดว่าจะไม่ต่ำไปกว่าช่วงที่ผ่านมาแล้ว โดยบริษัทได้มีการพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆให้ตอบโจทย์ลูกค้าในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงการปรับปรุงช่องขาย Telesales และออนไลน์ในการขยายลูกค้ากลุ่ม SMEs และลูกค้ารายบุคคล นอกจากนี้ บริษัทยังมีการขยายธุรกิจไปยังกลุ่มสินค้าทางการแพทย์และสุขภาพ ซึ่งมีการทำตลาดสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าคอนซูเมอร์ ที่มีรายได้เติบโตขึ้นทั้งจากสินค้าที่เป็น Lifestyle Safety สินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพในกลุ่มผู้สูงอายุ และสินค้า Ergonomic โดยบริษัทตั้งเป้าเติบโตมากกว่า 100% ในตลาดกลุ่มนี้ ซึ่งมองว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ และมีอัตรากำไรที่ดี บริษัทยังมีช่องทางขยายอีกมาก รวมถึงการเพิ่มสินค้าทางการแพทย์เพื่อเพิ่มสัดส่วนการขายให้กับหน่วยงานภาครัฐและโรงพยาบาลต่างๆ” นายธันยากล่าว
ด้านผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 16.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.07% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไร 15.55 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 5.97% ขณะที่รายได้รวมจากการขายและบริการอยู่ที่ 246.31 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยราว 5.02% โดยมีสัดส่วนรายได้หลักมาจากกลุ่ม SAFETY 76.54%, กลุ่มควบคุมสภาพแวดล้อม (CE) 16.46%, กลุ่มระบบบำบัดน้ำ (WATER) 1.99% และกลุ่มสินค้าทางการแพทย์และสุขภาพ 5% ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่บริษัทเตรียมปั้นให้โตแบบก้าวกระโดดในปีนี้
“แม้ปีนี้จะเผชิญความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ชะลอตัว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อลูกค้าบางกลุ่ม แต่กลุ่มสินค้าหลักของบริษัทถือเป็นสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจน้อยกว่าสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป เพราะเป็นสินค้าที่จำเป็นและอยู่ภายใต้ข้อกำหนดตามกฎหมายซึ่งยังคงบังคับใช้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจที่มีมาตรฐานอุตสาหกรรมสูง นอกจากนี้ แนวโน้มการให้ความสำคัญด้าน ESG เน้นย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นในการลงทุนด้านสุขภาพความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสในการสร้างการเติบโตในระยะยาว และเรายังคงเดินหน้าต่อยอดไปยังโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่สอดรับกับเทรนด์การเติบโตของอนาคต” นายธันยา กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 มิ.ย. 68)
Tags: PHOL, ธันยา หวังธำรง, ผลธัญญะ, สินค้าสุขภาพ