THAI ชู Network Strategy ติดปีกยอดขายโตต่อเนื่อง ตลาดยุโรป-ออสเตรเลีย-อินเดียแกร่ง

นายกรกฎ ชาตะสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ บมจ.การบินไทย [THAI] เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1/68 มีอัตราบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ในระดับที่สูง และยังต่อเนื่องไปไตรมาส 2/68 เป็นผลจาก Network Strategy หรือการขายตั๋วแบบเครือข่าย จากเดิมการบินไทยขายตั๋วแบบ point to point โดยเฉพาะเส้นทางยุโรป และออสเตรเลีย ทำให้การบินไทยสามารถขายล่วงหน้าในไตรมาส 4/67 ทำให้เส้นทางบินระยะไกล (Long Haul flight) ในเดือนม.ค.-เม.ย.68 มี Cabin Factor ระดับสูง โดยในเดือน เม.ย.อยู่ระดับ 80-85% และแม้ว่าในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย.อยู่นช่วงโลว์ซีซั่น แต่ปีนี้ในเดือน พ.ค. ยอดจองตั๋วล่วงหน้าสูงขึ้นเป็น 72% จากเดือนเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 68%

อาทิ ขายตั๋วจากลอนดอน (อังกฤษ) เข้าซิดนีย์ (ออสเตรเลีย) ขายจากซิดนีย์ไปเส้นทางในยุโรป จากในอดีตที่ขายแค่จากซิดนีย์มากรุงเทพฯ เป็นต้นหรือเส้นทางอินเดีย ที่ก่อนหน้านี้ ผู้โดยสารจะเข้ามากรุงเทพฯ ประมาณ 65-70% อีก 30-35% ต่อไปที่อื่น แต่สัดส่วนระหว่างเข้ากรุงเทพฯ กับเชื่อมต่อไปที่อื่นคิดเป็นสัดส่วน 50/50 เป็นต้น

ขณะเดียวกัน การเพิ่มเครื่องบิน A321 เข้ามาเสริมฝูงบิน จำนวน 32 ลำ ซึ่งปีนี้จะรับมอบ 2 ลำ ในเดือนพ.ย.-ธ.ค. และปีหน้ารับมอบอีก 10 ลำ และที่เหลือรับมอบในปี 70 จากที่มีอยู่ของสายการบินไทยสมายล์ A320 จำนวน 20 ลำ จะทำให้เส้นทางในทวีปเอเชียแข็งแรงมากขึ้น โดยเฉพาะเส้นทางอินเดีย ซึ่งการบินไทยทำการบินมากกว่า 10 จุดหมายปลายทางมีผลตอบรับดีต่อเนื่อง ทุกเมือง มี Cabin Factor มากถึง 80-90%

อย่างไรก็ดี เส้นทางไปเกาหลี ฮ่องกง สิงคโปร์ชะลอตัว มี Cabin Factor ราว 65-70% ส่วนตลาดจีนก็หายไปเช่นกันเช่น ปักกิ่ง คุณหมิง Cabin Factor ราว 70% ทั้งที่ capacity ในตลาดจีนมีเพียง 60% ของปี 62 ยกเว้นเส้นทางเซี่ยงไฮ้มี Cabin Factor ดีขึ้น 75-80% กวางตุ้ง 75%

ดังนั้น อาจจะหันไปบินเมืองอื่นในเอเชีย โดยมองว่าอินโดนีเซียก็ยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพ ซึ่งปัจจุบัน การบินไทยบินไป จาร์การ์ตา และ เดนบาซาร์ (บาหลี) อาจจะเพิ่มเมืองสุราบายา ในปีหน้า

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 พ.ค. 68)

Tags: , , , , ,