YLG ชี้ ราคาทองคำระยะสั้นผันผวนค่อนข้างสูง แต่เชื่อราคาลงไม่ลึก ฟื้นตัวหลังพักฐานที่โซน 3,200 ดอลลาร์/ออนซ์ ขึ้นทำระดับสูงสุดสัปดาห์นี้ 3,438 ดอลลาร์/ออนซ์ ใกล้กับเป้าหมายแรก และเป็นระดับสูงสุดในประวัติการณ์ที่ 3,500 ดอลลาร์/ออนซ์ ล่าสุด วันนี้ถูกขายทำกำไรหลังเจรจาภาษีระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้า มีสัญญาณคืบหน้า
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ 2 ที่ทองคำถูกแรงขายทำกำไรในระยะสั้น สลับเข้ามากดดัน หลังจากที่เริ่มเกิดกระแสข่าวและความคาดหวังถึงการเจรจาทางการค้า โดยเฉพาะสหรัฐ-จีน ที่มีกำหนดมาเจรจากันที่สวิตเซอร์แลนด์สุดสัปดาห์นี้ โดยส่งตัวแทน สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ และเจมีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ส่วนจีนส่ง เหอ หลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรี มาเป็นตัวแทน
นอกจากนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้โพสต์ Truth Social ว่าจะจัดแถลงข่าวในวันนี้เวลา 10.00 น. (เวลาไทย 21.00 น.) เกี่ยวกับ “ข้อตกลงการค้าที่สำคัญกับประเทศขนาดใหญ่” โดยสื่อตีข่าวว่าเป็นสหราชอาณาจักร อย่างไรก็ตาม การเจรจาทางการค้าดังกล่าว ไม่อาจกลับมาสงบลงได้ทุกประเทศทั่วโลกในระยะเวลาสั้น ๆ
YLG จึงประเมินว่า แม้ระยะสั้น ทองคำจะเริ่มถูกขายทำกำไรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ในระยะกลาง การเจรจาจะยังดำเนินการไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป อาทิ ระหว่างสหรัฐ-จีน ที่กำลังจะเจรจาที่สวิตเซอร์แลนด์ช่วงสุดสัปดาห์ อาจมีการผ่อนปรนภาษีที่เคยตอบโต้กับไปมาในอัตราที่สูงเกิน 100% ลงมาบ้าง เพื่อเป็นการเปิดทางนำไปสู่การเจรจาขั้นถัดไป
โดยจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีฝ่ายใดที่ยอมแสดงความอ่อนข้อลง จากที่เมื่อวาน (7 พ.ค.) กระทรวงพาณิชย์จีน เผยว่า สหรัฐเป็นฝ่ายติดต่อเข้ามาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ทรัมป์กล่าวในวันนี้ว่า จีนเป็นฝ่ายเริ่มขอเจรจาระหว่างสองชาติ ไม่ใช่สหรัฐอย่างที่จีนกล่าวอ้าง
ดังนั้น YLG จึงมองว่า การพักตัวของราคาทองคำจะไม่ได้ลงลึก เนื่องจากในท้ายที่สุดแล้ว ก็จะเกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจโลกไม่มากก็น้อย และในทางกลับกัน หากการเจรจาระหว่างสหรัฐกับจีนไม่สามารถตกลงกันได้ ก็จะกลับมากระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง โดยแม้ว่าปีนี้ทองคำจะเคยขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์แล้ว แต่มองว่าเมื่อจบรอบการพักฐาน จะมีโอกาสปรับขึ้นไปทดสอบได้อีกครั้ง
ทั้งนี้ หากการปรับตัวขึ้นครั้งถัดไปสามารถทำระดับสูงสุดใหม่ได้ จะมีเป้าหมายในปีนี้ที่ 3,600-3,700 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ส่วนทองคำแท่งในประเทศ หากผ่าน 54,400 บาท/บาททองคำได้ จะมีโอกาสขึ้นทดสอบเป้าหมายระยะยาวที่ 56,000-57,500 บาท/บาททองคำ
อย่างไรก็ดี การแกว่งตัวของราคาทองคำในตลาดโลกครั้งนี้ อาจสร้างแรงกดดันให้กับทองไทยมากกว่าทองโลก เนื่องจากค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าอย่างมีนัยสำคัญ โดยนักลงทุนที่ต้องการลงทุนทองคำในช่วงนี้ ระยะสั้น สามารถหาจังหวะทำกำไรจากการเข้าซื้อขายภายในกรอบ โดยมองกรอบแนวรับ 3,320-3,292 ดอลลาร์/ออนซ์ และแนวต้าน 3,400-3,415 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนทองไทย มองเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 51,650-51,200 ดอลลาร์/ออนซ์ และกรอบแนวต้าน 52,900-53,200 บาท/บาททองคำ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 พ.ค. 68)
Tags: YLG, พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์, ราคาทองคำ