จากการที่รัฐบาลมีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยการให้วีซ่าฟรีแก่บางประเทศ เป็นระยะเวลา 60 วัน และ 90 วันซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน เพื่อหวังดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างประเทศให้ได้ตามเป้า แต่กลับเป็นดาบสองคม เพราะพบว่ามีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มใช้สิทธิดังกล่าวในการกระทำผิดกฎหมาย เช่น การอยู่ในราชอาณาจักรเกินระยะเวลาที่กำหนด และการเข้ามาทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต จนกรณีล่าสุดที่ตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม พบว่า มีชาวจีนอาศัยวีซ่าฟรี เข้าไทยประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย ทำให้เกิดคำถามว่า มาตรการนี้ยังเหมาะสมหรือไม่
ส่งผลให้รัฐบาลต้องเร่งทบทวนมาตรการดังกล่าว โดยเฉพาะความเหมาะสมของระยะเวลาในการอยู่ในประเทศ เพื่อปรับเปลี่ยนมาตรการให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นหลัก
สำหรับนโยบายวีซ่าฟรี ในมุมมองของภาคเอกชน รวมถึงนักวิเคราะห์ เห็นว่า มาตรการ Visa Free ยังจำเป็นต่อการแข่งขันในภูมิภาค แต่ควรมีการปรับปรุงให้เหมาะสม ซึ่งปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวไทยไม่ได้อยู่นาน ถ้านักท่องเที่ยวเอเชียจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1 สัปดาห์บวกลบ ส่วนนักท่องเที่ยวยุโรปจะอยู่ที่ประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งการเปิด Visa Free เป็นช่องให้คนแฝงตัวเข้ามาเป็นทุนเทามากขึ้น
*ไม่ควรยกเลิก Visa Free แต่ลดจำนวนวัน-ประเทศ ลง
นายธนา ตุลยกิจวัตร นักวิเคราะห์ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลจะปรับลดจำนวนวันลง เพราะสำหรับคนที่ต้องการอยู่นาน ๆ หรือ Digital nomad ก็มีวีซ่าเฉพาะอยู่แล้ว ขณะที่นักท่องเที่ยวทั่วไปก็ไม่ได้ใช้วีซ่านาน เช่นเดียวกับภาคเอกชนที่ก็ไม่ได้ต้องการให้มีวีซ่าที่นานขนาดนั้น
ทั้งนี้ มองว่าระยะเวลาฟรีที่เหมาะสม คือ ไม่ควรเกิน 30 วัน ส่วนจำนวนประเทศ มองว่า ไม่น่าจะมีการเพิ่มจำนวนประเทศ เพราะตอนนี้ครอบคลุมเกือบทุกตลาดอยู่แล้ว และอาจพิจารณาบางประเทศที่ไม่ได้เป็นตลาดหลัก หรือไม่ได้แอ็กทีฟ ในส่วนนี้สามารถตัดได้
“รัฐบาลไม่น่าจะยกเลิกมาตรการ Visa free เพราะยังต้องแข่งกับประเทศอื่น ๆ หลายประเทศ แนวทางน่าจะเป็นการปรับลดจำนวนวันที่เกินความจำเป็นมากกว่า หรืออาจไม่จำเป็นต้อง 90 ประเทศ สุดท้ายแล้วคิดว่ามาตรการ Visa free ไม่น่าจะหายไป” นายธนา กล่าว
ส่วนจำนวนและรายได้จากนักท่องเที่ยวก่อนและหลังมีมาตรการ Visa free เพิ่มขึ้นเท่าไรนั้น นายธนา กล่าวว่า ประเมินได้ค่อนข้างยากว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นเป็นผลของมาตรการ Visa free หรือเป็นเรื่องปกติหลังเปิดประเทศแล้วนักท่องเที่ยวกลับมา
ส่วนที่มีประชาชนส่วนหนึ่งมองว่า มาตรการ Visa free เป็นสาเหตุให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาสร้างปัญหาในประเทศไทยนั้น นายธนา กล่าวว่า อาจต้องขอความร่วมมือจากประเทศต้นทางให้ช่วยกรองนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไทยในระดับหนึ่ง เพราะจากข้อมูลที่ทราบ คือถ้าอย่างนักท่องเที่ยวจีน จะไม่ค่อยเคารพกฎหมายในประเทศไทยเท่าไรนัก แต่จะเกรงกลัวกฎหมายในประเทศเขามากกว่า ซึ่งจะเห็นได้จากที่ช่วงหลังทัวร์ศูนย์เหรียญหายไป เป็นเพราะประเทศเขาค่อนข้างเคร่ง และเอาจริงเวลาไทยส่งผู้กระทำความผิดกลับไปยังจีน
ทั้งนี้ มองว่านักท่องเที่ยวจีนยังเป็นตลาดหลักของไทยอยู่ ถึงแม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเข้าไทยลดลง แต่ยังคงเป็นตลาดหลักอันดับ 1 ของไทยอยู่ และเยอะกว่านักท่องเที่ยวมาเลเซียที่เป็นอันดับ 2
อย่างไรก็ดี แม้สถานการณ์ท่องเที่ยวในขณะนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะลดลง แต่นักท่องเที่ยวจากตลาดระยะไกล อย่างยุโรป หรือตะวันออกกลาง ก็มาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น จากการที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไปทำการตลาดไว้ค่อนข้างเยอะ ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวมีรายจ่ายต่อหัวสูงกว่านักท่องเที่ยวเอเชีย สะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 1/68 ที่แม้จำนวนนักท่องเที่ยวจะโตเพียง 1% แต่ในแง่ของรายได้จากการท่องเที่ยวดีขึ้น
นายธนา ประเมินสถานการณ์ท่องเที่ยวว่า ในปี 68 จำนวนนักท่องเที่ยวจะมากกว่าปีก่อน (ประมาณ 35.5 ล้านคน) แต่ไม่ถึงเป้าที่ททท. ตั้งไว้ที่ 38-39 ล้านคน ประเมินว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 36.5-37 ล้านคน ส่วนรายได้น่าจะกลับมา 90% หรือปีนี้น่าจะยังไม่ถึง 3 ล้านล้านบาท ในส่วนของจำนวนนักท่องเที่ยวจีน ที่รัฐบาลประเมินว่าจะอยู่ที่ 8 ล้านคน มองว่าปีนี้น่าจะน้อยกว่าปีที่แล้ว (ประมาณ 6.7 ล้านคน) ประเมินไม่เกิน 6 ล้านคน ปัจจัยจากทั้งมาตรการและความเข้มงวดต่าง ๆ ในประเทศจีน เช่น การรณรงค์เที่ยวในประเทศ เป็นต้น รวมถึงสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศจีน ประกอบกับปัจจัยหลัก คือเรื่องขาดความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัยในประเทศไทย
“ขณะนี้นักท่องเที่ยวจีนหายไปเยอะ และน่าจะน้อยกว่าปีที่แล้ว จากการสำรวจพบว่า ประเด็นที่เขากังวลมากที่สุดคือเรื่องความปลอดภัย สูงกว่าเรื่องราคาถูก สายตาที่เขามองไทยดรอปลง ดังนั้น อาจต้องมองหาตลาดอื่นมาชดเชย ในเชิงจำนวนพึ่งพาจากตลาดจีน แต่ควรบูสนักท่องเที่ยวตะวันออกกลาง และยุโรปไปด้วย เราอาจไม่ต้องการจำนวนนักท่องเที่ยวให้ถึง 40 คนก็ได้ เพื่อที่จะทำให้รายได้เรากลับมาที่จุดเดิม แต่เน้นตลาดคุณภาพมากกว่าที่จะไปเน้นปริมาณ” นายธนา กล่าว
ทั้งนี้ ในระยะยาว มองว่าไทยควรพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่เป็น Man Made มากขึ้น อย่างประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม ได้มีการวางโครงสร้างไว้ค่อนข้างดี มีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว Man Made จำนวนมาก ซึ่งต่างจากไทยที่พึ่งพาแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติ ที่มีข้อเสียคือต้องขึ้นอยู่กับตามฤดูกาล
สำหรับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ เชื่อว่ารัฐบาลจะมีมาตรการเราเที่ยวด้วยกันออกมาในช่วงไตรมาส 3/68 หรือเป็นการกระตุ้นท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซัน
*เอกชนหนุน Visa Free แต่แนะจำกัดกลุ่ม-กำหนดเงื่อนไข
ด้านนายชนะพันธ์ แก้วกล้าไชยวุฒิ อุปนายกและเลขาธิการสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน มีมุมมองเรื่องมาตรการ Visa free ว่า การมีมาตรการ Visa free เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ซึ่งการปรับลดจำนวนวัน หรือลดจำนวนประเทศที่ Visa free ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ไม่สามารถป้องกันผู้กระทำความผิดเข้าประเทศได้
นายชนะพันธ์ กล่าวว่า การที่ต่างชาติเข้ามาในประเทศไทย และไทยไม่มีการควบคุมอย่างถูกต้อง เป็นการเปิดช่องให้เขากระทำความผิดได้ง่าย ดังนั้น มองว่า ควรจำกัดให้ Visa free เฉพาะกลุ่ม “นักท่องเที่ยว” เท่านั้น และควรสร้างกฎเกณฑ์เพิ่มเติม คือให้นักท่องเที่ยวทุกคนที่จะผ่านเข้าประเทศไทย ต้องผ่านบริษัททัวร์ที่จดทะเบียนถูกต้องในไทย หรือให้บริษัททัวร์เป็นผู้รับรองเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อให้มีผู้ดูแล ผู้รับผิดชอบ รวมทั้งมีประกันกรณีเกิดเหตุต่าง ๆ ขณะท่องเที่ยว ซึ่งกฎเกณฑ์ดังกล่าวจะเป็นการควบคุมนักท่องเที่ยวให้ปฏิบัติถูกต้อง และยังจะก่อทำให้เกิดรายได้ที่ชัดเจน และเมื่อเกิดรายได้ก็มีภาษีที่ชัดเจนมากขึ้น
“ตัวอย่างกฎเกณฑ์นี้มาจากประเทศจีน ที่มีการเปิดให้บางกลุ่มประเทศ Visa free เข้าประเทศจีน ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปต้องผ่านบริษัททัวร์รับรองก่อน ไทยควรนำเรื่องดี ๆ แบบนี้มาใช้ในบ้านเราบ้าง ส่วนการที่จะให้ตำรวจท่องเที่ยวมาดูแลทั้งหมด มองว่า เป็นเรื่องยากที่จะครอบคลุม เพราะมีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ” นายชนะพันธ์ กล่าว
นายชนะพันธ์ กล่าวว่า หลังจากช่วงโควิด-19 นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในไทยรู้สึกว่าขาดความปลอดภัย เพราะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาแบบอิสระ (FIT) มาเที่ยวแบบไม่ได้ผ่านทัวร์ ไม่มีใครดูแล ส่งผลให้เกิดปัญหาตามมามากมาย ซึ่งหากมีกฎเกณฑ์ที่เสนอไปดังกล่าว ก็จะตอบโจทย์ประเทศต้นทางว่าบริษัททัวร์จะดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
“การที่จะแก้ไขกฎระเบียบอะไรต่าง ๆ ไม่ควรเน้นชาติใดชาติหนึ่ง เพราะเน้นแล้วเหมือนแบ่งชนชั้น แต่ต้องจำกัดความว่า Visa free เฉพาะนักท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวก็ต้องเข้ามาผ่านบริษัททัวร์รับรองทุกรายก่อน และผู้ที่จะเข้ามาต้องเอาหนังสือมายื่นกับตม. และถ้าจะให้ดีคือให้บริษัททัวร์ ผ่านกรมการท่องเที่ยว ไปร่วมกับตม. อีกทีว่าบริษัทนั้นมีจริงหรือไม่ จะได้ตรวจสอบถูก มองว่า ตอนนี้เรามีสินค้าที่ดี แต่นักท่องเที่ยวขาดความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัย เขาก็ไม่กล้ามาอยู่ดี” นายชนะพันธ์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 เม.ย. 68)
Tags: SCOOP, Visa Free, ZoomIn, ท่องเที่ยว, นักท่องเที่ยว, วีซ่าฟรี