ฟิลิปปินส์สั่งปิดเรียนหนีร้อน หลังอุณหภูมิพุ่งแตะ 50 องศาเซลเซียส

อากาศร้อนจัดในฟิลิปปินส์ไม่เพียงจำกัดการผลิตภาคการเกษตร ส่งผลกระทบต่อน้ำและพลังงาน รวมถึงบั่นทอนธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นอุปสรรคต่อนักเรียนนักศึกษาในขณะที่ฟิลิปปินส์กำลังพยายามผลักดันการศึกษาให้ตามทันประเทศเพื่อนบ้าน

ข้อมูลจากโครงการประเมินผลนักเรียนระหว่างประเทศ (Programme for International Student Assessment – PISA) ระบุว่า ฟิลิปปินส์อยู่ในกลุ่มที่ได้คะแนนวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และการอ่านต่ำที่สุดในโลก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเรียนออนไลน์ติดต่อกันนานหลายปีในช่วงที่เกิดโรคโควิด-19 ระบาด

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หลายพื้นที่ของฟิลิปปินส์ต้องเผชิญกับอุณหภูมิสูงแตะ 50 องศาเซลเซียส หลังปรากฏการณ์เอลนีโญทำให้สภาพอากาศร้อนมากยิ่งขึ้นในช่วงฤดูร้อนระหว่างเดือนมี.ค.-พ.ค.

ข้อมูลของกระทรวงศึกษาธิการฟิลิปปินส์แสดงให้เห็นว่า ฟิลิปปินส์ได้ระงับการเรียนการสอนในสถานศึกษาหลายพันแห่งจากผลพวงของสภาพอากาศร้อน ซึ่งส่งผลกระทบต่อนักเรียนนักศึกษากว่า 3.6 ล้านคน

“ในเดือนพ.ค. เราคาดการณ์ว่าจะมีการระงับชั้นเรียนเพิ่มเพราะคลื่นความร้อน โดยคาดว่าอุณหภูมิเฉลี่ยอาจสูงกว่า 52 องศาเซียลเซียส เรานึกภาพออกเลยว่านักเรียนนักศึกษาจะกดดันมากเพียงใด” นายเซอร์เซส คาสโตร ที่ปรึกษาด้านการศึกษาขั้นพื้นฐานประจำมูลนิธิช่วยเหลือเด็ก ประเทศฟิลิปปินส์ (Save the Children Philippines) ระบุ

ทั้งนี้ สภาพอากาศร้อนจัดทั่วภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งทำให้นักเรียนเรียนหนังสือลำบากขึ้น

มูลนิธิช่วยเหลือเด็ก ประเทศฟิลิปปินส์ ระบุว่า เด็กมีความเสี่ยงจะล้มป่วยจากโรคที่เกี่ยวข้องกับอากาศร้อนมากเป็นพิเศษหากต้องเผชิญสภาพอากาศร้อนจัดเป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นอาการเวียนศีรษะ อาเจียน หรืออาจถึงขั้นหมดสติได้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 เม.ย. 67)

Tags: , ,