รู้ทันป้องกันได้ 6 อาการที่มากับหน้าร้อน

สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ระบุว่า ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ การสัมผัสอากาศร้อนเป็นเวลานานจนร่างกายไม่สามารถปรับตัวต่อความร้อนได้ทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ อาจทำให้เกิดอาการได้ดังนี้

*ผื่น

อาการ

  • มีตุ่มคันเล็กๆ มักพบบริเวณคอ หน้าอก ใต้ราวนม รักแร้ ขาหนีบ ข้อพับแขนและขา

การดูแลรักษา

  • อยู่ในที่อากาศเย็น เพื่อลดการเหงื่อออก
  • อาบน้ำบ่อยๆ รักษาความสะอาดของผิว
  • สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
  • ทายาที่มีฤทธิ์ช่วยลดอาการคัน
*บวม

อาการ

  • บวมโดยเฉพาะบริเวณเท้า มักเกิดขึ้นในช่วง 2-3 วันแรกที่สัมผัสความร้อน

การดูแลรักษา

  • อาการบวมสามารถหายเองได้
  • ควรพักผ่อนให้เพียงพอและนอนยกขาให้สูง
  • ไม่ควรใช้ยาขับปัสสาวะ
*ตะคริว

อาการ

  • กล้ามเนื้อหดเกร็งเฉียบพลัน มักเกิดบริเวณหน้าท้อง แขน ขา

การดูแลรักษา

  • ควรพักทันทีในที่ร่มและเย็น
  • นวดเบาๆ ตรงที่เป็นตะคริว สลับกับการยืดกล้ามเนื้อ
  • ดื่มน้ำสะอาดหรือเครื่องดื่มเกลือแร่ เพื่อชดเชยน้ำที่ร่างกายสูญเสียไป
  • หากเป็นตะคริวนานกว่า 1 ชั่วโมง ควรปรึกษาแพทย์
*ลมแดด

อาการ

  • หน้ามืด วิงเวียน และเป็นลมหมดสติ พบบ่อยในผู้ที่ไม่เคยชินกับอากาศร้อน

การดูแลรักษา

  • ควรพักที่ร่มและเย็น นอนหงายลงกับพื้น เหยียดแขนขา
  • ใช้หมอนหรือสิ่งอื่นรองขาและเท้าให้สูงกว่าลำตัว
  • คลายเสื้อผ้าให้หลวม ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดหน้า และบีบนวดแขนขา
  • หากอาการไม่ดีขึ้นใน 30 นาที ควรรีบไปพบแพทย์
*เพลียแดด

อาการ

  • เหงื่อออกมาก อ่อนแรง ปวดกล้ามเมื้อ ปวดหัว เวียนหัว สับสน มึนงง คลื่นไส้ อาเจียน และอาจเป็นลม

การดูแลรักษา

  • ย้ายผู้ป่วยไปอยู่ในที่ร่มและเย็น หรือสถานที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ
  • ถอดเสื้อผ้าผู้ป่วยออกให้เหลือเท่าที่จำเป็น เพื่อระบายความร้อน
  • จับผู้ป่วยนอนราบ ใช้หมอนหรือสิ่งอื่นรองขาและเท้าให้สูงกว่าลำตัว
  • ห่มด้วยผ้าเปียกและใช้พัดลมเป่า วางถุงใส่น้ำแข็งไว้ตามซอกคอ รักแร้และขาหนีบ
  • หากอาการไม่ดีขึ้น ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที
*โรคฮีทสโตรก

อาการ

  • ตัวร้อนจัด (อุณหภูมิร่างกายมากกว่า 40 องศาเซลเซียส) ผิวหนังแดง แห้ง เหงื่อไม่ออก ปวดหัว สับสน มึนงง คลื่นไส้ อาเจียน ตอบสนองช้า หมดสติและอาจเสียชีวิตได้

การดูแลรักษา

  • ย้ายผู้ป่วยไปอยู่ในที่ร่มและเย็น หรือสถานที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ
  • ถอดเสื้อผ้าผู้ป่วยออกให้เหลือเท่าที่จำเป็น เพื่อระบายความร้อน
  • จับผู้ป่วยนอนราบ ใช้หมอนหรือสิ่งอื่นรองขาและเท้าให้สูงกว่าลำตัว
  • ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตัวและใช้พัดลมเป่า วางถุงใส่น้ำแข็งไว้ตามซอกคอ รักแร้และขาหนีบ เพื่อช่วยให้อุณหภูมิในร่างกายเย็นลง
  • หากหมดสติให้จับนอนตะแคง เพื่อป้องกันโคนลิ้นอุดตันทางเดินหายใจ และควรรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 เม.ย. 67)

Tags: ,