สหรัฐพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ทะลุ 100,000 ราย เหตุเดลตาระบาดหนัก

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) ระบุว่า สหรัฐพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มกว่า 100,000 ราย เมื่อวันศุกร์ที่ 30 ก.ค. แตะ 101,171 รายทั่วประเทศ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนก.พ.ปีนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตัวเลขใหม่ดันยอดผู้ติดเชื้อรายวันเฉลี่ย 7 วันเพิ่มเป็น 72,493 ราย สูงที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนก.พ. โดยเพิ่มขึ้น 64.1% เมื่อเทียบกับสถิติ 7 วันก่อนหน้า

ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และผู้เสียชีวิตกลับมาเพิ่มสูงอีกครั้งในเกือบทุกรัฐของสหรัฐ เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ซึ่งแพร่ระบาดง่ายกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม

รายงานจาก CDC เผยว่า ยอดผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในรอบ 7 วัน เฉลี่ยอยู่ที่ 5,475 ราย เพิ่มขึ้น 46.3% จากสัปดาห์ก่อน โดยตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย. ขณะยอดผู้ป่วยเสียชีวิตใหม่เฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 33.3% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า

ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วล่าสุดเป็นผลมาจากไวรัสสายพันธุ์เดลตา ซึ่งจะยังคงเป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดทั่วสหรัฐอย่างต่อเนื่อง

เว็บไซต์ CDC ระบุว่า ไวรัสสายพันธุ์เดลตามีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว โดยจากเดิมที่ครองสัดส่วนน้อยกว่า 1% ของจำนวนผู้ป่วยในสหรัฐเมื่อเดือนพ.ค. มาอยู่ที่มากกว่า 80% แล้วในขณะนี้ พร้อมเสริมว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวสามารถแพร่จากบุคคลหนึ่งสู่อีกคนง่ายกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้าราว 2 เท่า

ทั้งนี้ CDC คาดการณ์ว่า สัดส่วนผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาจะเพิ่มเป็น 82.2% อีกทั้งได้ปรับแก้แนวปฏิบัติด้านการสวมใส่หน้ากากอนามัย โดยกระตุ้นเตือนชาวอเมริกันที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้สวมหน้ากากในโรงเรียนและพื้นที่สาธารณะในร่มในเขตที่มีอัตราการติดเชื้อสูง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ส.ค. 64)

Tags: , , , ,