หุ้นไทยปิดร่วง 18.20 จุด เงินบาทอ่อนค่ากดดัน Fund Flow-โควิดระบาดหนักถ่วง

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,527.66 จุด ลดลง 18.20 จุด (-1.18%) มูลค่าการซื้อขาย 81,298.00 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงหลังขึ้นไป 2 วันติด ท่ามกลางโควิดยังระบาดหนัก ส่งผลให้กลุ่มแบงก์-กลุ่มโรงไฟฟ้าปรับลง ส่วนหุ้นที่ขึ้นได้ดีเป็นกลุ่มรับประโยชน์บาทอ่อน อย่างกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ แต่ก็ไม่ดีต่อ Fund Flow ด้านตลาดภูมิภาคลบ-ตลาดยุโรปบวกเล็กน้อย พรุ่งนี้ตลาดฯมีโอกาสรีบาวด์ แต่ช่วงนี้คงผันผวนตามสถานการณ์โควิด ขณะที่คาดว่ายังมีแรงเก็งงบฯเข้ามาหนุนได้บ้าง ให้แนวรับ 1,520 แนวต้าน 1,540 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,527.66 จุด ลดลง 18.20 จุด (-1.18%) มูลค่าการซื้อขาย 81,298.00 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,547.38 จุด และระดับต่ำสุด 1,526.91 จุด
  • ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 467 หลักทรัพย์ ลดลง 1,255 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 419 หลักทรัพย์

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบีเอสที กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงหลังจาก 2 วันที่ผ่านมาดัชนีฯได้ดีดกลับขึ้นไป ซึ่งหุ้นที่ปรับขึ้นไป 2 วันที่ผ่านมาก็มาปรับตัวลงในวันนี้อย่างกลุ่มโรงไฟฟ้า ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิดยังแย่ ยอดผู้ติดเชื้อเกินกว่า 2 หมื่นรายอีกวัน ส่งผลให้หุ้นกลุ่มแบงก์ปรับลง แม้ว่าจะคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าจะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่เมื่อเป็นจริงตามคาดก็มีผลต่อตลาดฯด้วยเช่นกัน ส่วนหุ้นที่ปรับตัวขึ้นได้ดีเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า อย่างหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และงบฯก็ดีด้วย อย่างไรก็ตาม แม้เงินบาทอ่อนค่าจะดีต่อกลุ่มส่งออก แต่ก็ไม่ดีต่อ Fund Flow ที่ตอนนี้ยังไม่ไหลเข้าไทย

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวในแดนลบ ส่วนตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้บวกเล็กน้อย ซึ่งมองว่าทางฝั่งสหรัฐฯ และยุโรปมีทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมแนะติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันศุกร์นี้

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (6 ส.ค.) นายมงคล กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสรีบาวด์หลังลงไปมาก แต่ก็มองว่าตลาดช่วงนี้จะผันผวนไปตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิดที่มีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน ซึ่งส่วนใหญ่มองว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดยังเพิ่มขึ้นได้อีก อย่างไรก็ดี การเล่นเก็งกำไรตามงบฯยังพอทำให้ตลาดฯแข็งแกร่งอยู่

พร้อมให้แนวรับ 1,520 จุด ส่วนแนวต้าน 1,540 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

7UP มูลค่าการซื้อขาย 6,212.92 ล้านบาท ปิดที่ 1.59 บาท ลดลง 0.19 บาท

IVL มูลค่าการซื้อขาย 3,479.27 ล้านบาท ปิดที่ 40.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,204.41 ล้านบาท ปิดที่ 34.50 บาท ลดลง 0.50 บาท

KCE มูลค่าการซื้อขาย 1,979.68 ล้านบาท ปิดที่ 79.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,916.37 ล้านบาท ปิดที่ 57.25 บาท ลดลง 1.00 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ส.ค. 64)

Tags: , ,