เงินบาทเปิด 33.30 อ่อนค่าจากวานนี้ตามทิศทางตลาดส่วนใหญ่ จับตาผลประชุมเฟดคืนนี้

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.30 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิด ตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.23 บาท/ดอลลาร์ ตามทิศทางตลาดโลกเนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ยกเว้นค่าเงินเยน โดยตลาดรอดูผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่คาดการณ์ว่าจะพิจารณาปรับลดวงเงิน QE ลง

“บาทอ่อนค่าจากเย็นวานนี้ตามทิศทางตลาดโลก โดยตลาดรอดูผลประชุมเฟดกลางดึกคืนนี้”

นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.20 – 33.40 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (2 พ.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.30141% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.36387%

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.88 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 113.59 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1578 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1594 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.305 บาท/ดอลลาร์

– ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยในงานสัมมนาทีดีอาร์ไอเรื่องโมเดลใหม่ในการพัฒนา ประเทศหลังโควิด-19 ฟื้นฟู-ต่อเติมเพื่อเติบโต ว่า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่สุดที่ประเทศไทยควรปรับเปลี่ยนโมเดลในการพัฒนา ประเทศและฟื้นฟูเศรษฐกิจใหม่รับโลกในยุคหลังโควิด และสังคมสูงวัย โดยมีสิ่งที่ต้องทำ คือ ฟื้นฟูคน สิ่งแวดล้อม และแก้ปัญหาพื้นฐานเดิม ตามมาด้วยการต่อเติมทั้งการยกผลิตภาพการผลิต และการปฏิรูปภาครัฐ เน้นการมีส่วนร่วมในการพัฒนา และกระจายประโยชน์จากการ พัฒนาให้ไปถึงคนยากจน เชื่อว่าหากทำสำเร็จจะช่วยเพิ่มเศรษฐกิจไทยได้อย่างน้อย 2% และสามารถก้าวขึ้นเป็นประเทศรายได้สูงในอีก 20 ปี

– “ธปท.” ชี้พิษโควิด-19 ทุบกำลังซื้ออ่อนแอ ทำผู้ประกอบการกังวลเพิ่ม อุปสรรคใหญ่ภาคธุรกิจฟื้นตัว หวังอานิสงส์รัฐผ่อน คลายมาตรการควบคุม-อัดฉีดเงินกระตุ้นใช้จ่าย หนุนเชื่อมั่นและการบริโภคกระเตื้อง

– ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) ขณะ ที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย

– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ขณะเดียว กันนักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในสัปดาห์นี้

– นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟด ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในแถลงการณ์หลังการประชุมครั้งนี้ เฟดจะประกาศปรับลดวงเงิน QE เดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์ โดยเริ่มตั้งแต่เดือนพ.ย. ซึ่งจะทำให้เฟดยุติการทำ QE โดยสิ้นเชิงใน กลางปี 2565

– นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 4 พ. ย. และในเดือนธ.ค. รวมทั้งจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีหน้า หลังจากที่นายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BoE ส่งสัญญาณบ่งชี้ว่า BoE มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น

– นักลงทุนยังรอดูการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาด การณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะพุ่งขึ้น 450,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้นเพียง 194,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. และคาดว่า อัตราว่างงานเดือนต.ค.จะลดลงสู่ระดับ 4.7% จากระดับ 4.8% ในเดือนก.ย.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 พ.ย. 64)

Tags: ,