SKY โชว์ Backlog 1.72 หมื่นลบ.รับรู้ 15% ปีนี้ เตรียมเคาะแผนงานใน Q1/65

นายสิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สกาย ไอซีที (SKY) กล่าวว่า สถานการณ์การดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/65 บริษัทยังคงมีการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องจากโครงการต่างๆที่จะทยอยรับรู้ต่อเนื่องจากปี 64 พร้อมเดินหน้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน

ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนสร้างความแข็งแกร่ง และเพิ่มโอกาสการสร้างรายได้จากการนำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI) กับเทคโนโลยีอัจฉริยะต่างๆ มาพัฒนาโซลูชันใหม่ และต่อยอดผลิตภัณฑ์กลุ่ม Digital Platform ที่มีอยู่ให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมเตรียมเผยทิศทางการดำเนินธุรกิจภายในไตรมาส 1/65

“ความต้องการด้านเทคโนโลยีในการดำเนินธุรกิจทั้งภาครัฐและภาคเอกชนยังคงเพิ่มสูงขึ้น เห็นได้จากการทรานส์ฟอร์มองค์กรต่างๆ ทั้งในและนอกอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ทยอยปรับแผนการดำเนินธุรกิจ เปลี่ยนผ่านองค์กรในรูปแบบ Digitalization กันอย่างต่อเนื่อง SKY ในฐานะหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Platform และ AI Solutions จึงวางภารกิจสร้างสรรค์โซลูชันใหม่ๆ ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI และเทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตสู่ New S-Curve พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย และเชื่อมต่อ Tech Ecosystem ของประเทศไทยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น”

นายสิทธิเดช กล่าว

โดยในสิ้นปี 64 บริษัทได้เข้าทำสัญญาและมีมูลค่างานที่รอส่งมอบตามสัญญาในอนาคต (Backlog) อยู่ทั้งสิ้น 1.72 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทยอยสร้างรายได้เข้ามาภายในปี 65 ไม่น้อยกว่า 15% และทยอยสร้างการเติบโตให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่อง

ด้านจากผลการดำเนินงานปีบริษัทสามารถทำรายได้รวมทั้งสิ้น 3 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 55.20 ล้านบาท ซึ่งถือว่ายังรักษาระดับความแข็งแกร่งของบริษัทได้ ท่ามกลางแรงกดดันจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจาการส่งมอบงานทั้งด้านการจำหน่ายและวางระบบแบบเบ็ดเสร็จ ตลอดจนด้านการบริการ ให้แก่หน่วยงานต่างๆได้ตามกำหนด

อีกทั้งบริษัทได้ขยายธุรกิจกลุ่ม Digital Platform เพื่อเพิ่มโอกาสการสร้างรายได้ในเซ็กเตอร์ใหม่ ต่อยอดจากความเชี่ยวชาญของกลุ่มบริษัทในด้านการบริหารจัดการกล้องวงจรปิด พัฒนาแพลตฟอร์มระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ (Smart Security Platform) ดูแลความปลอดภัยภายใน 7 กลุ่มอาคาร ภายใต้ชื่อ “TOSSAKAN” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เรือธง (Flagship Product) ในการขยายสู่ตลาดภาคเอกชนอย่างเต็มตัว ตามแผนการกระจายรายได้และสร้างการเติบโตในระยะยาวให้กับบริษัท

“จากภาพรวมในปีทีผ่านมาช่วยให้บริษัทสามารถรักษาสถานะการดำเนินงานเป็นกำไรไว้ได้ แม้จะมีโครงการให้บริการระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) ที่ได้รับผลกระทบจากโควิดเข้ามากระทบบ้างก็ตาม” นายสิทธิเดช กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.พ. 65)

Tags: , , ,