STARK เทรดวันสุดท้ายพุ่ง 50% เก็งกำไร คาดหวังฟื้นฟูกลับมาเทรดได้ โบรกฯเตือนหลีกเลี่ยง

ราคา STARK พุ่ง 50% หรือเพิ่มขึ้น 0.01 บาท มาที่ 0.03 บาท มูลค่าซื้อขาย 6.56 ล้านบาท เมื่อเวลา 15.31 น.จากราคาเปิด 0.02 บาท ราคาสูงสุด 0.03 บาท ราคาต่ำสุด 0.02 บาท

ราคาหุ้นบมจ.สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น (STARK) พุ่งแม้ว่าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ออกประกาศเตือนผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนทั่วไป เนื่องจากมีข้อมูลสำคัญที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนการตัดสินใจลงทุนหรือตัดสินใจใช้สิทธิใช้เสียงในฐานะผู้ถือหุ้นของบริษัท คือตลาดหลักทรัพย์จะขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) เพื่อสั่งห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ STARK อีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 ไปจนกว่าบริษัทจะสามารถดำเนินการแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากเหตุส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์และดำเนินการให้บริษัทมีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขายได้ตามปกติ

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า เหตุที่ราคาหุ้น STARK ฟื้นตัวขึ้นมา เพราะนักลงทุนมีความหวังที่หุ้น STARK จะกลับมาเข้ามาเทรดได้อีกครั้งหลังจากที่มองว่าบริษัทน่าจะเข้าฟื้นฟูกิจการและแก้ไขผลการดำเนินงานมาเป็นบวกได้เหมือนกับหุ้นในตลาดหลายตัวที่สามารถกลับเข้ามาซื้อขายได้ ขณะที่ราคาหุ้น STARK ถือว่าถูกมาก โดยที่ผู้ลงทุนก็ไม่รู้ว่าต้องรอนานเท่าไร ที่กว่าหุ้น STARK จะกลับมาเทรดได้อีกครั้ง

ดังนั้นจึงมองว่าเป็นการเสี่ยงโชค เพราะกว่าที่บริษัทจะแก้ไขเหตุการเพิกถอน จะมีกระบวนการเพิ่มทุนใส่เข้าไปหลายรอบ ซึ่งหากผู้ลงทุนเป็นผู้ถือหุ้นก็จะต้องใส่เงินลงทุนเพิ่มเพื่อรักษาสัดส่วน ถ้าไม่ใส่เงินสัดส่วนที่ถือก็จะถูกไดลูทลงไป และ การแก้ไขผลการดำเนินงานและส่วนของผู้ถือหุ้น จะไม่เห็นเร็วๆนี้และไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน โดยมีกระบวนการฟื้นฟูกิจการอีกมาก

ฉะนั้นจึงแนะนำ”ให้หลีกเลี่ยง” การลงทุนหุ้น STARK

อนึ่ง ราคาหุ้น STARK ก่อนขึ้น SP (ครั้งแรก) เมื่อ 28 ก.พ.66 อยู่ที่ 2.38 บาท และตลาดขึ้น SP นาน 3 เดือน ตั้งแต่ 1 มี.ค.-31 พ.ค.66 และกลับมาเปิดให้เทรดอีก 1 เดือน ช่วง 1 -30 มิ.ย.66 ก่อนขึ้น SP อีกครั้งในวันที่ 1 ก.ค.66 ไปจนกว่าบริษัทจะสามารถดำเนินการแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน จากเหตุส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ และดำเนินการให้บริษัทมีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขายได้ตามปกติ

โดยราคา 1 มิ.ย.66 ราคา STARK ร่วง 92.44% ลดลง 2.20 บาท มาที่ 0.18 บาท มูลค่าซื้อขายหนาแน่น 1,110 ล้านบาท และราคาลงไปต่ำสุด 0.01 บาท เมื่อวันที่ 28-29 มิ.ย.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 มิ.ย. 66)

Tags: , ,