TSTH คาดยอดขายเหล็กปีนี้ฟื้นมาที่ 1.21 ล้านตัน รัฐเร่งเบิกจ่ายงบดันเมกะโปรเจกต์เดินหน้า

นายตารุณ คูมาร์ ดากา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทาทา สตีล (ประเทศไทย) (TSTH) กล่าวถึงเป้าหมายการดำเนินงานในงวดปี 68 (เม.ย.67- มี.ค.68) คาดว่าปริมาณการขายเหล็กจะฟื้นตัวมาที่ระดับ 1.21 ล้านตัน เทียบเท่ากับงวดปี 66 หลังจากงวดปี 67 ลดลงไปที่ 1.12 ล้านตัน พลาดจากเป้าหมาย โดยในปีนี้มีปัจจัยหนุนจากการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐปี 2567 ทำให้เกิดการลงทุนโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชนหนุนให้เศรษฐกิจขยายตัว

ในปีนี้จะมีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ต่อเนื่องจากปี 66 ซึ่งในไตรมาส 1/67 มีปริมาณการใช้เหล็กเส้นประมาณ 90,000 ตัน คาดว่าการใช้เหล็กเส้นรวมทั้งปีจะอยู่ที่ประมาณ 400,000 ตัน โครงการที่คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปีนี้จะใช้เหล็กเส้นประมาณ 60,000 ตัน ทั้งนี้บริษัทหวังว่ามูลค่าการก่อสร้างภาครัฐในปี 67 ยังคงขยายตัวจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ ขณะที่มูลค่างงานก่อสร้างของภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องตามการสร้างบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม รวมถึงการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์และโรงงานอุตสาหกรรม

ขณะที่บริษัทจะเน้นการขยายฐานลูกค้า ขยายตลาดส่งออก รวมทั้งการควบคุมต้นทุนอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มงวดไตรมาส 1/68 (เม.ย.-มิ.ย. 67) ยังถูกกดดันจากการลงทุนภาครัฐล่าช้าตามงบประมาณปี 67 ซึ่งส่งผลให้มีการปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 67 เหลือ 2.7% นอกจากนี้ การบริโภคเหล็กสำเร็จรูปของประเทศไทยช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. ยังคงลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากความต้องการผลิตภัณฑ์เหล็กทรงยาวน้อยลง เนื่องจากภาคการก่อสร้างที่อ่อนแอ

สำหรับประเด็นแรงกดดันจากเหล็กที่นำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อภาพรวมการบริโภคผลิตภัณฑ์เหล็กในไทยและกดดันยอดขายของบริษัท ซึ่งมองว่าภาครัฐต้องมีกฎกติกาควบคุมการนำเข้าอย่างเท่าเทียม และนำเข้าด้วยราคาที่เหมาะสม หรือควบคุม จัดการไม่ให้เกิดการทุ่มราคา ขณะที่บริษัทก็ต้องทำงานร่วมกับภาครัฐและติดตามการนำเข้าสินค้า อย่างไรก็ตามจากสกุลเงินบาทที่มีความผันผวนอาจทำให้ผู้ประกอบการนำเข้าสินค้ายากขึ้น

ขณะที่ผลประกอบการในงวดไตรมาส 4/67 (ม.ค.-มี.ค. 67) ที่ผ่านมา ปริมาณการขายอยู่ที่ 320,000 ตัน สูงกว่าไตรมาสก่อนจากยอดขายเหล็กเส้นในประเทศเพิ่มขึ้น แต่ในช่วง 12 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.67 ปริมาณการขายอยู่ที่ 1.12 ล้านตัน ลดลง 8% สาเหตุหลักมาจากการนำเข้าเหล็กลวดที่มีราคาต่ำมากมาแย่งตลาดในประเทศ ประกอบกับ สถานการณ์ตลาดต่างประเทศที่ชบเชาลงมากและราคาเศษเหล็กที่ค่อนข้างสูงซึ่งไม่สามารถชดเชยจากสถานการณ์ราคาสินค้าสำเร็จรูปได้

รายได้จากการขายในงวดไตรมาส 4/67 อยู่ที่ 6,914 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนสะท้อนถึงปริมาณการขายเพิ่มขึ้น แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ลดลง 7% จากราคาขายที่ลดลง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของตลาดที่อ่อนแอ ในช่วง 12 เดือนรายได้จากการขายอยู่ที่ 24,689 ล้านบาท ลดลง 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากราคาขายที่ลดลงและปริมาณการขายที่ลดลงจากเหล็กลวดในประเทศและการส่งออกที่ลดลง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 เม.ย. 67)

Tags: , , ,