โพล ส.อ.ท.แนะรัฐปรับโครงสร้างต้นทุนการผลิต รักษาขีดความสามารถแข่งขันอุตสาหกรรมไทย

นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยผลสำรวจ FTI CEO Poll ครั้ง ที่ 39 เดือน มี.ค.67 ในหัวข้อ “มุมมองต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทยในปัจจุบัน” โดยผู้บริหาร ส.อ.ท.ประเมิน ภาพรวมขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทยในปัจจุบันเฉลี่ยทั้ง 9 ด้าน อยู่ในระดับปานกลาง ท่ามกลางความผันผวนของ เศรษฐกิจโลกที่มีความเปราะบาง

ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วงฟื้นตัว ทำให้ภาคอุตสาหกรรมจำเป็นต้องปรับตัวรับมือกับการดำเนินธุรกิจ ภายใต้ ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม อาทิ กฎระเบียบที่ล้าสมัยและไม่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ ต้นทุน การผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ปัญหาผลิตภาพแรงงานและการขาดแคลนแรงงาน ข้อจำกัดในการเข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรม กฎ ระเบียบทางการค้าที่เป็นอุปสรรค การทุ่มตลาดสินค้า ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ตลอดจนสภาพเศรษฐกิจที่ยังคงได้รับแรงกดดันจากปัญหาหนี้ ครัวเรือน

จากปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันภาคอุตสาหกรรม ผู้บริหาร ส.อ.ท.เสนอให้ภาครัฐเร่งยกระดับ โครงสร้างพื้นฐานอุตสาหกรรมทั้งระบบภายใน 1 ปี โดยเฉพาะการดูแลปรับปรุงโครงสร้างต้นทุนการผลิตทั้งระบบให้เอกชนสามารถแข่งขัน ได้ มีการปฏิรูปกฎหมายกฎระเบียบเพื่อส่งเสริมความคล่องตัวในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) รวมทั้งการพัฒนา ระบบและมาตรการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันในหน่วยงานที่มีหน้าที่อนุมัติอนุญาต ซึ่งถือเป็นปัญหาสำคัญที่ฉุดรั้งขีดความสามารถในการแข่งขัน ของประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ผู้บริหาร ส.อ.ท.ได้แนะนำให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมมีการพัฒนาองค์กรอยู่ตลอดเวลา เพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ และเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ ทั้งการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยในการ ลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพ การให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมที่กำลังเป็นเทรนด์โลก การยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐาน และพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการตลาด มีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ รวมทั้งการพัฒนาและยกระดับ ฝีมือแรงงาน (Upskill, Reskill, New skill) เป็นต้น

ทั้งนี้ จากการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) จำนวน 250 ท่าน ครอบคลุมผู้บริหารจาก 46 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด มีสรุปผลการสำรวจ FTI CEO Poll ครั้งที่ 39 จำนวน 3 คำถาม ดังนี้

1.ขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทยในปัจจุบันอยู่ในระดับใด

1)ความคล่องตัวในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) และการปฏิบัติตามกฎหมาย 3.05

2)ต้นทุนการผลิตและการประกอบการ เช่น วัตถุดิบ พลังงาน ค่าแรง การเงิน โลจิสติกส์ ฯลฯ 2.88

3)ผลิตภาพแรงงาน (Labour Productivity) และกำลังคนรองรับความต้องการของอุตสาหกรรม 2.96

4)ความพร้อมด้านการพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม และส่งเสริม R&D 2.98

5)การส่งเสริมและดึงดูดการลงทุนภายในประเทศ ทั้ง FDI, TDI และ SMEs 3.07

6)การค้า การส่งออก และศักยภาพการแข่งขันในตลาดต่างประเทศ 3.00

7)ความสามารถในการปรับตัวของภาคอุตสาหกรรมสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และNet Zero 2.95

8)การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรองรับภาคอุตสาหกรรม เช่น Logistic, Digital ฯลฯ 3.22

9)ศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ เช่น GDP เงินเฟ้อ นโยบายรัฐ ฯลฯ 2.90 คะแนนเฉลี่ยรวม 9 หัวข้อ 3.00

2.ภาคอุตสาหกรรมมีแนวทางการปรับตัวอย่างไร เพื่อให้สามารถแข่งขันทางธุรกิจได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน (Multiple choices)

อันดับ 1 นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในกระบวนการผลิตเพื่อลดต้นทุนการผลิต 82.8% เพิ่มประสิทธิภาพ และให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม

อันดับ 2 ยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐาน และพัฒนาสินค้า/บริการ 72.4% ให้ตอบโจทย์ความต้องการตลาด

อันดับ 3 พัฒนาและยกระดับฝีมือแรงงาน (Upskill, Reskill, New skill) 62.0%

อันดับ 4 ปรับกลยุทธ์ทางการตลาด พัฒนาแบรนด์สินค้า ขยายตลาดต่างประเทศ 57.2% และสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการดำเนินธุรกิจ

อันดับ 5 ปรับโครงสร้างองค์กรและกระบวนการทำงานในองค์กร 56.0% เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3.ภาคอุตสาหกรรมคาดหวังให้ภาครัฐเร่งดำเนินการเรื่องใดภายใน 1 ปี เพื่อช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ของประเทศไทย (Multiple choices)

อันดับ 1 ดูแลปรับปรุงโครงสร้างต้นทุนการผลิตทั้งระบบ เช่น ราคาพลังงาน 78.8% ราคาวัตถุดิบ โลจิสติกส์ ฯลฯ

อันดับ 2 ปฏิรูปกฎหมายกฎระเบียบ เพื่อส่งเสริม Ease of Doing Business 67.2% และการเติบโตทางเศรษฐกิจ

อันดับ 3 พัฒนาระบบและมาตรการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน 62.4% ในหน่วยงานที่มีหน้าที่อนุมัติอนุญาต

อันดับ 4 ส่งเสริมให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการพัฒนาสินค้า/บริการ 61.2% และกระบวนการผลิตรวมทั้งจูงใจให้เกิดการลงทุนด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมเป้าหมาย

อันดับ 5 ส่งเสริมการยกระดับผลิตภาพแรงงาน และพัฒนากำลังคน 58.0% รองรับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 มี.ค. 67)

Tags: , , ,